CMT & CFTe คืออะไร

Tanakorn Koomrampai’s CMT Certificate

หลายท่านอาจจะสงสัยครับ หลังชื่อของผมมีคำว่า CMT, CFTe ห้อยอยู่ท้ายชื่อ จะมีไปทำไม? ในแวดวงการเงินการลงทุนท่านอาจจะเคยได้ยิน CFA (Certified Financial Analyst) ซึ่งเป็นคุณวุฒิสำหรับผู้ที่มีความรู้ประสบการณ์ทางด้านการวิเคราะห์หลักทรัพย์การเงินการลงทุน โดยเฉพาะในส่วนของปัจจัยพื้นฐาน เรียกว่า CFA นี้เป็นตัวแม่เลยก็ได้ ว่ากันว่าสอบยากมาก ในประเทศไทยก็ได้ copy เอาแนวข้อสอบมาแล้วทำเป็นคุณวุฒิ CISA นอกจากนี้ยังมี CAIA, CFP, FRM ซึ่งเป็นใบเบิกทางชั้นเลิศสู่วิชาชีพ ไม่ว่าจะเป็นนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ผู้จัดการกองทุน ผู้วางแผนการเงิน เป็นต้น

คราวนี้ในฝั่งของปัจจัยทางเทคนิคนั้น ก็มีองค์กรสององค์กรหลัก ๆ ที่ต้องการพัฒนาและกำหนดมาตรฐานองค์ความรู้ในการวิเคราะห์ด้วยปัจจัยเทคนิคขึ้นมา ได้แก่

• CMT Association (เดิมชื่อ MTA: Market Technician Association) ออกคุณวุฒิ CMT : Chartered Market Technician แก่ผู้ที่สอบผ่านทั้ง 3 ระดับ ภายในระยะเวลา 5 ปี โดยต้องมีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้อง 3 ปี และมีสมาชิกที่ได้ CMT แล้วรับรอง
• IFTA หรือ International Federation of Technical Analysts ออกคุณวุฒิ CFTe และ MFTA CFTe นั้นสอบให้ผ่าน 2 ระดับก็ได้แล้ว ส่วน MFTA ต้องส่ง Essay งานวิจัยให้กรรมการพิจารณาอนุมัติ

ในระดับสากลทั้ง CMT และ CFTe เป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลาย ส่วนในบ้านเราหากต้องการทำงานและขอรับใบอนุญาตเป็นนักวิเคราะห์ด้วยปัจจัยเทคนิค จะต้องสอบผ่าน CMT Level 1 หรือ CFTe Level 1 ให้ได้

ถามว่ามีแล้วได้อะไรสำหรับผมในฐานะเทรดเดอร์และวิทยากร?

แน่นอนว่าดีกว่าไม่มี ในฐานะเทรดเดอร์การอ่านตำราภาษาอังกฤษเพื่อการสอบแต่ละระดับเล่มหนา ๆ 700 – 1000 หน้า ทำให้เราเก่ง รอบรู้ขึ้น มีหลายเรื่องหลายประเด็นที่ผมไม่เคยทราบมาก่อน เมื่อเข้าใจก็สามารถนำมาใช้ประโยชน์และเทรดดีขึ้นได้ ข้อสอบจะไม่ได้ถามแค่เรื่องการดูกราฟเทคนิคอย่างเดียว โดยเฉพาะ CMT Level 2 ขึ้นไปจะเริ่มให้เราเชื่อมโยงเรื่องของการสร้างระบบการเทรด เรื่องของตลาด วัฎจักร ตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจ และ ในที่สุดสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์ให้เป็น

ในฐานะวิทยากร ก็อยากจะให้เทรดเดอร์และนักลงทุนเชื่อมั่น ว่าสิ่งที่นำมาสอนนั้นนอกจากประสบการณ์ตรงแล้วก็ยังถูกต้องเป็นมาตรฐานสากลด้วยครับ